ส่วน ผู้ใช้เก่าก็ให้ถึง 25 GB เลยทีเดียว ว่าไปแล้วทั้ง 3 Mobile OS นี้ต่างก็มีจุดแข็งเป็นของตนเอง อย่าง iOS ก็มาพร้อมความเสถียร ลื่นไหล ใช้งานได้ประทับใจผู้ใช้ ส่วน Windows Phone มี หน้าตาส่วนผู้ใช้ (UI) ที่สวยงาม ทันสมัย ส่วน Android ก็เด่นในด้านการ ปรับแต่งสารพัด และรองรับสเปคหลากหลายเครื่อง มาดูกันว่า แต่ละ OS ต่างกันอย่างไร? และสำหรับ จุดเด่น จุดด้อย แบบละเอียดระหว่าง Mobile OS สามารถอ่านได้ที่ เปรียบเทียบจุดเด่นจุดด้อย iOS, Android, BB, Windows Phone สรุป หลายๆอย่างทั้ง iOS กับ Android นั้นทำได้เหมือนกัน แต่ที่ยกมานั้นเป็นจุดเด่นที่ระบบมี เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ระดับ "ทั่วๆไป" พึงจะสัมผัสได้ แต่ถ้าคุณอยู่ในระดับ GEEK ทั้งสองระบบ ทำอะไรได้มากกว่าที่อธิบายไป ซึ่งตอนนี้ถ้าใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนใหม่ๆ ซักเครื่อง ตอนนี้เห็นว่า สมาร์ทโฟนเลือดไทยอย่าง iMobile เพิ่งเปิดตัวซับแบรนด์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ "IQ-Series" ที่ออกมาพร้อมกันถึง 3 ตัว ได้แก่ IQ1 IQ2 และ IQ5 ที่งานนี้มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการแอนดรอย 4. 0 ICS เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอนนี้ไม่ว่า รีวิวไหนก็ยังชื่นชมกับสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา แต่สเปคครบเครื่อง และหน้าจอใหญ่สะใจ 4.
1. อิสระ VS ง่าย - แอนดรอยด์จะมีความอิสระ สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับอุปกรณ์ภายนอกได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ติดตั้งแอพพลิเคชั่นการใช้งานระบบในโทรศัพท์มือถือจากภายนอกได้ สามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ของเครื่องและแอพพลิเคชั่นได้ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าของเครื่องได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากที่ทีเดียว - ส่วนไอโอเอสนั้นมีความง่าย คือมีความง่ายได้ในการใช้งาน ทุกอย่างจะรวมไว้อยู่ที่หน้าจอโฮมสกรีนทำให้ง่ายต่อการจัดการและใช้งาน มีบริการจากส่วนกลางของระบบที่มีความเป็นหนึ่งเดียว มีระบบป้องการความปลอดภัยจากไวรัสและมัลแวร์ก่อกวนที่จะมาก่อกวนเครื่องให้เสียหาย 2. จอมพลัง VS เสถียร - เป็นจอมพลัง มีความแข็งแรงและอึด สามารถปรับแต่งให้เครื่องทำงานได้แรงกว่าปกติได้ มีลักษณธการทำงานเหมือนระบบคอมพิวเตอร์คือ มีระบบการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน หรือที่เราเรียกกันว่า multi tasking - ส่วนไอโอเอสนั้น จะมีลักษณะเสถียร คือสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล สะดวก ระบบไม่ติดขัด ประหยัดพลังงานแม้ว่าจะเปิดแอพค้างไว้นาน ๆ ก็ตาม อีกทั้งยังสามารถลงแอพเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ เพิ่มมากขึ้นแต่ประสิทธิภาพของเครื่องนั้นไม่ได้ลดน้อยลงเลย 3.
IOSหรือ ที่เรียกกันว่า ผลไม้.... เเอปเปิ้ล... IOSคืออะไร?
ศ. 2550 โดยบริษัทแอนดรอย์ดร่วมกับ Google จากนั้นนเมื่อปี พ.
บทความนี้จะสอนให้คุณปรับเสียงไอโฟนของคุณให้ดังขึ้นหรือเบาลง ขั้นตอน 1 เปิด Settings. เลือกแอพพลิเคชั่นที่เป็นรูปฟันเฟืองสีเทาบนหน้าจอของคุณ 2 แตะ Sounds. แถบนี้จะอยู่ค่อนมาทางด้านบนของหน้า 3 เลื่อนแถบระดับเสียง Ringer and Alerts (เสียงเรียกเข้าและการเตือน) ให้อยู่ในระดับที่ต้องการ.
บริการหลังการขายดีเยี่ยม เมื่อใดก็ตามที่สินค้า Apple ที่ใช้อยู่เกิดปัญหา สามารถติดต่อ Apple Support หรือเดินทางไปยัง Apple Store ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือ และเพื่อความอุ่นใจ ทาง Apple ก็มีบริการ AppleCare+ ขยายความคุ้มครองด้านบริการนับจากวันที่ซื้อ 7. ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แม้ว่า iPhone จะไม่สามารถปรับแต่งได้มากเท่ามือถือ Android แต่ในแง่ของการใช้งานจริงก็ถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานง่าย ด้วยอินเทอร์เฟสที่ถูกออกแบบมาให้มีความเรียบง่าย และไม่ซับซ้อน รวมถึงการตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ก็สามารถทำได้เลยผ่าน Control Center ------------------------------------- ที่มา: เรียบเรียง: Update: 29/09/2021 iPhone 13 iOS 15