สวัสดีค่ะ คุณ Pin03, อาการปวดเต้านม อาจเกิดจาก 1. การอักเสบของเนื้อเยื่อในเต้านม ซึ่งมักจะมีอาการบวมแดงของผิวหนังร่วมด้วย 2. มีถุงน้ำหรือซีสต์ ซึ่งมีการอักเสบเกิดขึ้น ก็จะทำให้มีอาการปวด เจ็บได้ แต่ก็จะคลำได้ก้อนที่เต้านมร่วมด้วย 3. ผลข้างเคียงจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น แต่มักทำให้ปวดทั้ง 2 ข้าง 4. เป็นอาการในช่วงก่อนการมีประจำเดือนหรือขณะมีประจำเดือน แต่ก็มักจะเป็นทั้ง 2 ข้าง 5.
ย.
สมุทรสาคร เเต่มาทำงานด้านศัลยกรรมตกเเต่งความงาม ทั้งนี้ ตนจึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงทุกคน ที่คิดจะทำศัลยกรรม ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเเพทย์ ผู้ซึ่งสามารถจะเปลี่ยนเเปลงเราไปทั้งชีวิต แหล่งที่มา ข่าวสด เรียบเรียงโดย
สวัสดีค่ะ คือว่าหนูมีเรื่องจะถามค่ะปกติเเล้วหนูเป็นคนที่ประจำเดือนมาครบทุกเดือนเเล้วก็มาปกติด้วยค่ะเเล้วประมาณสองเดือนมานี้หนูมีอาการเครียดๆนอนน้อยเเล้วก็น้ำหนักลดไปนิดหน่อยเพราะบางทีกินข้าวเเค่มื้อเดียว เดือนที่เเล้วประจำเดือนมาเเค่3วันค่ะ ส่วนเดือนนี้ยังไม่มาเลย จะเลยกำหนดอยู่เเล้ว เป็นเะราะอะไรคะสาเหตุที่ประจำเดือนไม่มา เพราะปกติเป็นคนที่มาครบไม่เคยขาด แสดงความคิดเห็น
ราชบุรี-ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น. ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ชาวบ้าน อ. บ้านโป่ง จ. ราชบุรี เหยื่อศัลยกรรมคลินิกเสริมหน้าอก จนทำให้เต้านมอักเสบติดเชื้อ หัวนมข้างขวาไร้ความรู้สึก ส่วนข้างซ้ายมีน้ำนมไหลออกมา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ก่อน น. เอ จะเปิดเผยเรื่องราวเป็นอุทาหรณ์ว่า ตนเป็นพนักงานตรวจสอบบัญชีอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังหารายได้เสริมหาเลี้ยงครอบครัว ด้วยการรับงานเป็นวีเจ พริตตี้ และรับถ่ายแบบ แต่ด้วยลักษณะงานที่ทำ ประกอบกับเป็นสาวรูปร่างเล็ก จึงอยากจะทำศัลยกรรมหน้าอก เพื่อสร้างความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพ โดยหาข้อมูลและรีวิวของคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามต่างๆ กระทั่งพบและตัดสินใจเลือกผ่าตัดเสริมหน้าอกที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ. ลพบุรี ราคาค่าบริการอยู่ที่ 30, 000 บาท แต่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ในวันที่ 14 ส. ค. 64 ที่คลินิกสาขาย่านประชาชื่น กรุงเทพมหานคร หลังผ่าตัดครบ 7 วัน (วันที่ 21 ส. 64) ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจอาการ พบว่าที่เต้านมข้างขวา หัวนมเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ไร้ความรู้สึก รวมไปถึงมีตุ่มพองขึ้นหลายจุด อันเกิดจากสาเหตุเต้านมติดเชื้อ จึงตัดสินใจเอาเต้านมเทียมข้างขวาออกเพียง 1 ข้าง ต่อมาเต้านมข้างซ้ายที่เหลืออยู่ ก็เริ่มมีอาการปวดที่เต้านม พร้อมกับมีน้ำนมไหล มีไข้หนาวสั่นคล้ายอาการติดเชื้อ จึงไปพบแพทย์อีกครั้ง ปรากฏว่าบริเวณฝีเย็บที่เต้านมข้างซ้ายมีอาการปริแตก เป็นหนอง ต้องเย็บใหม่ และอยู่ระหว่างรอดูอาการ แม้จะผ่านไปได้ 7 วัน แต่บาดแผลก็ยังไม่สมาน ต้องเย็บใหม่รวมเป็นครั้งที่ 3 กระทั่งวันที่ 22 ก.