21 กันยายน 2564 คณะรัฐมนตรี (ครม. ) เห็นชอบลดเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33 และ มาตรา 39 ต่ออีก 3 เดือน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด – 19 โดยปรับลดเงินสมทบผู้ประกันตน มาตรา 33 และมาตรา 39 ทั่วประเทศต่ออีก เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ กันยายน – พฤศจิกายน 2564 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 แบ่งเป็น ฝ่ายนายจ้างเดิมหักเงินสมทบเดือนละ 5% ของค่าจ้างลูกจ้าง ลดลงเหลือ 2. 5% ส่วนผู้ประกันตน จากเดิมที่หักเงินสมทบ 5% ต่อเดือน ลดลงเหลือ 2. 5% ต่อเดือน ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 จากเดิมจ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ลดเหลือ 235 บาท/เดือน ที่มา: มติชนออนไลน์ 22 September 2021 Social Security Fund Thailand
2-01) * ม. 33 และ ม. 39 จะพิจารณาจากเอกสารหลักฐาน และใบรับรองแพทย์ และผู้ประกันตนต้องมีการนำส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขฯ มาตรา 40 รับเงินทดแทนขาดรายได้ตามทางเลือก 1 - 2 - 3 ต้องนำส่งสมทบ 3 เดือน: ภายในระยะเวลา 4 เดือน ก่อนเดือนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย พิจารณาจากเอกสารหลักฐาน และใบรับรองแพทย์ ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส. 2-01/ม. 40)
65 ปรับลดลงเล็กน้อย แต่การลดเวลาการทำงานล่วงเวลา (OT) และการชะลอรับพนักงานใหม่ยังปรับเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มปรับเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง) สำหรับปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อระดับรายได้ของครัวเรือนต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือน โดยได้มีการสอบเพิ่มเติมถึงมาตรการภาครัฐที่ครัวเรือนอยากให้เกิดขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบพบว่า ครัวเรือนส่วนมาก 39. 2% ต้องการให้มีมาตรการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ขณะที่ 23. 9% ต้องการต่ออายุมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 5 หลังมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 4 จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.
ที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 11. 4% จึงเริ่มเห็นการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นมาสู่ผู้บริโภคมากขึ้น "ในระยะข้างหน้าภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งจากสถานการณ์สินค้าราคาสูง โดยภาครัฐจะสิ้นสุดการตรึงราคาน้ำมันดีเซลหลังสิ้นเดือนเม. 65 ขณะที่ราคาก๊าซและค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากนี้จึงอาจจะเริ่มเห็นการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ประกอบการสู่ผู้บริโภคมากขึ้น" บทวิเคราะห์ ระบุ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มพุ่งสูงเหนือระดับ 25, 000 รายต่อวัน (ไม่รวม Antigen Test Kit: ATK) ขณะที่ยังต้องติดตามในช่วงหลังเทศกาล ที่กระทรวงสาธารณสุขคาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อมีโอกาสเพิ่มขึ้นราว 50, 000-100, 000 รายต่อวัน "ดัชนี KR-ECI ในระดับปัจจุบัน (มี. 65) ขยับลงอยู่ที่ 33. 4 ซึ่งยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าสถานการณ์สินค้าราคาสูงในช่วงที่กำลังซื้อยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ จะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน ดังนั้น ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังมีความเปราะบางมาตรการจากภาครัฐจึงมีความจำเป็น ที่จะเข้ามาประคับประคองและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น" ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.
65) Tags: KR-ECI, ค่าครองชีพ, ภาวะเศรษฐกิจ, ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, อัตราเงินเฟ้อ, เศรษฐกิจไทย