0% ซึ่งเป็นตัวเลขเท่าเดิมเมื่อเทียบกับในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สาเหตุที่ธนาคารโลกยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจีดีพีไทยที่ 1% เป็นผลจากการบริโภคของภาคเอกชนอ่อนแอ ซึ่งเป็นผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังคงมีไม่มากนักจนถึงสิ้นปี 2564 ท่ามกลางการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา รวมถึงการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย ขณะที่ ภาคการส่งออกสินค้าเป็นส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโต สะท้อนถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ของโลก และคาดว่าการลงทุนจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อไป ดร.
3% และ 0. 6% ตามลำดับ ในขณะที่ ภาคเกษตรกรรม มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของผู้มีงานทำลดลง (-0. 7%) และเมื่อเปรียบเทียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้า (ไตรมาส 4 ปี 2563) พบว่า ผู้มีงานทำในภาคการบริการและการค้า และภาคการผลิต มีอัตราเปลี่ยนแปลงผู้มีงานทำลดลง (-1. 2% และ -4. 0%) ผู้มีงานทำในไตรมาส 4 ปี 2564 ที่มีจำนวนชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ 35-49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และ 50 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เมื่อพิจารณาชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ของผู้มีงานทำน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พบว่า มีจำนวน 6. 95 ล้านคน เป็นกลุ่มไม่ประสงค์ทำงานเพิ่ม 6. 51 ล้านคน และประสงค์ทำงานเพิ่ม 0. 44 ล้านคน สำหรับผู้ที่มีจำนวนชั่วโมงทำงานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และประสงค์ที่จะทำงานเพิ่มนั้น เรียกว่า ผู้ทำงานต่ำระดับด้านเวลา คิดเป็น 1. 2% ส่วนผู้ที่ทำงานน้อยกว่า 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (โอกาสเป็นผู้ว่างงานแฝง) คิดเป็นร้อยละ 1. 9 ส่วน สถานการณ์การว่างงาน มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น ผลสำรวจพบว่า ผู้ว่างงานลดลงจาก 8. 7 แสนคน ในไตรมาส 3 เหลือ 6. 3 แสนคนในไตรมาส 4 เป็นผลต่อเนื่องมาจากมาตรการภาครัฐที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศในพื้นที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสำคัญๆ โดยระยะการว่างงานของ ผู้ว่างงาน ประมาณ 62% เป็นการว่างงานระยะกลาง และเป็นการว่างงานของเยาวชนมากที่สุด ในจำนวนผู้ว่างงานทั้งหมด แบ่งเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 3.
ตั้งแต่โควิด-19 ระบาด หนี้สินกลายเป็นนิวนอร์มอลของผู้คนจำนวนมาก เพราะผู้ที่ไม่เคยเป็นหนี้ก็มาเป็นหนี้ครั้งแรก ผู้ที่มีหนี้อยู่แล้วก็ต้องกู้จนไม่มีใครให้กู้ แม้แต่รัฐเองก็ต้องขยายเพดานเงินกู้ ปัญหาหนี้สินครัวเรือนเป็นความเสี่ยงเชิงโครงสร้างที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย การทบทวนข้อมูลหนี้สินครัวเรือนในโครงการอนาคตประเทศไทยแผนงานคนไทย 4. 0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติพบว่า หนี้ครัวเรือนในประเทศไทยสูงเป็นลำดับที่ 2 ของเอเซียตะวันออกคือสูงถึงร้อยละ 78. 6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ในปี 2561 ส่วนหนี้ภาคเอกชนค่อนข้างคงที่ประมาณร้อยละ 70. 5 ของ GDP ในปี 2560 เมื่อสิ้นปี 2563 หนี้สินของครัวเรือนไทยเมื่อเทียบกับ GDP อยู่ที่ร้อยละ 89. 3 อัตราการเป็นหนี้ของครัวเรือนไทยสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ใกล้เคียงกัน อัตราการเป็นหนี้นี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากร้อยละ 40. 6 ในปี 2547 และร้อยละ 66. 2 (สศช.
เศรษฐกิจ 07 ก. พ. 2565 เวลา 16:21 น. 7. 2k สำนักงานสถิติเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์แรงงานไตรมาส 4 ปี 64 ผู้เสมือนมีแนวโน้มการว่างงานเพิ่มขึ้น ผู้ทำงานต่ำกว่า 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพิ่มมีมากถึง 5. 3 แสนราย สถานการณ์การว่างงานมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น ผู้ว่างงานลดลงจาก 8. 7 แสนคน ในไตรมาส 3 เหลือ 6.
ด้วยสภาการศึกษา เชิญชวนครู ผู้บริหาร นักเรียน และบุคลากรและผู้สนใจ ส่งผลงานเข้าประกวดสื่อนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ "สื่อสร้างสรรค์ปั้นอนาคตคนไทย 4. 0 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook icon Facebook Twitter icon Twitter LINE icon Line
5 เท่าของรายได้ต่อเดือนเป็น 7. 8 เท่าของรายได้ในปี 2560 และเกษตรกรผู้เช่าที่ดินมีภาระหนี้สินต่อรายได้เพิ่มขึ้นจาก 6. 8 เท่าเป็น 8. 8 เท่า ยิ่งไปกว่านั้น เกษตรกรรุ่นใหม่ยังมีหนี้เร็วขึ้นและมูลค่าของหนี้ก็ใหญ่ขึ้น ภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากการชะลอการชำระหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจให้แก่เกษตรกร การศึกษาของ ผศ. ดร. ศิวาพร ฟองทอง อาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้แผนงานคนไทย 4.