สังเกตมั้ยว่า หากเราเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้รู้สึกแสบตา ปวดตา และอาจทำให้มองเห็นภาพเบลอ บางคนอาจถึงขั้นสายตาสั้น นั่นเป็นเพราะ แสงสีฟ้า ที่ออกมาจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิสก์เหล่านี้เองที่ทำลายดวงตาของเรา แต่ครั้นจะให้เลิกใช้ มันก็เป็นเรื่องยาก เราจึงต้องป้องกันแสงสีฟ้าด้วยตัวเองด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. สวมแว่นเลนส์มัลติโค้ท หรือแว่นกรองแสงสีฟ้า ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีปัญหาเรื่องสายตาสั้น - ยาว แต่คุณก็สามารถสั่งตัด หรือหาซื้อแว่นที่สามารถกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอมาใช้ได้ เพื่อให้สายตาของคุณไม่ต้องสัมผัสกับเจ้าแสงที่มองไม่เห็นนี้โดยตรง แม้แรก ๆ คุณอาจจะรู้สึกรำคาญหน่อย แต่นาน ๆ ไปจะรู้สึกได้เองว่าอาการปวดตาลดน้อยลงไปกว่าเดิมเยอะ เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ใช้แว่นตา 2. ปรับแสงสว่างของหน้าจอให้อยู่ในระดับที่พอดี ปกติทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ และหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จะมีการตั้งค่าให้ปรับความสว่างของหน้าจอได้ เราจึงควรเลือกตั้งค่าเลือกแสงสว่างที่เหมาะกับสายตาเรามากที่สุด เพื่อไม่ให้แสงสีฟ้าออกมามากขึ้น และถ้าหากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือในเวลากลางคืนช่วงก่อนนอน ก็ควรตั้งค่าให้เป็น Night Mode หรือโหมดกลางคืน จะช่วยถนอมสายตาได้ดียิ่งขึ้น 3.
จอภาพควรห่างจากดวงตา 18-24 นิ้ว การใช้งานคอมพิวเตอร์ ควรตั้งระยะของจอภาพให้ห่างจากดวงตาอย่างน้อย 18-24 นิ้ว หรือประมาณสุดแขนเอื้อม และควรปรับระดับของจอให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 15-20 องศา เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะทำให้สายตาเกิดความเมื่อยล้าได้ 5. ใช้สูตร 20-20-20 สูตร 20-20-20 ในที่นี้ก็คือ ทุกๆ 20 นาที ควรพักสายด้วยการหันไปมองสิ่งอื่นๆ นอกจากจอคอมพิวเตอร์บ้าง โดยควรมองให้ห่างจากบริเวณที่นั่งอยู่ประมาณ 20 เมตร เป็นเวลา 20 นาที จะช่วยทำให้สายตาปรับสภาพการมองเห็นได้ดีขึ้น และไม่รู้สึกปวดตา หรือเมื่อยล้ามากเกินไป 6. ปรับตัวอักษรให้มองเห็นชัดเจน ตัวหนังสือที่เล็กมากเกินไปทั้งในจอคอมฯ และมือถือ จะทำให้สายตาทำงานหนักในการเพ่งมองแต่ละครั้ง ดังนั้นควรปรับขนาดของตัวหนังสือให้ใหญ่ในระดับพอดี มองเห็นได้ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับในการปรับการใช้งานของจอคอมและมือถือ พร้อมทั้งวิธีในการป้องกันการรับมือกับแสงสีฟ้าหน้าจอที่อาจจะทำให้สายตาของคุณได้รับอันตราย ดังนั้นเปลี่ยนมาใช้จอคอมฯและมือถือในแบบที่ถูกต้องแเหมาะสมตั้งแต่วันนี้ ก็น่าจะเป็นการดีต่อดวงตาของคุณมากที่สุด ยังไงอย่าลืมลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
สำหรับวิธีลดอาการระคายเคืองตาจากการใช้งานโทรศัพท์มือนั้น จากการทดลองใช้งานโทรศัพท์มือถือโดยการไม่เปิดฟีเจอร์กรองแสงนีน้ำเงิน (Blue light filter) เปรียบเทียบกับการเปิดฟีเจอร์กรองแสงนีน้ำเงิน ผมรู้สึกว่าการเปิดฟีเจอร์กรองแสงนีน้ำเงินทำให้อาการระคายเคืองตาน้อยกว่าการไม่เปิดฟีเจอร์กรองแสงนีน้ำเงินครับ (ย้ำ! เป็นความรู้สึก ครับ) หมายเหตุ: วิธีการในบทความนี้ เป็นการสังเกตผลจากตัวผมเอง ไม่มีทฤษฏีหรือเอกสารทางวิชาการอ้างอิงหรือรับรองนะครับ ถ้าใครทำตามแล้วได้ผลก็ดีใจด้วย แต่ถ้าไม่ได้ผลก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ขั้นตอนการลดแสงสีฟ้า (Blue light) บนสมาร์ทโฟน Android วิธีการเปิดแสงสีฟ้าบนสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ทำได้โดยการเปิดใช้ Blue light filter ตามขั้นตอนดังนี้ 1. บนหน้าจอ Home ให้แตะไอคอน Apps 2. บนหน้าจอ Apps แตะไอคอน Settings 3. บนหน้าจอ SETTINGS แตะ Display 4. บนหน้าจอ DISPLAY แตะ Blue light filter จากนั้นเลือกทำตามข้อ 5 หรือ 6 หรือ 7 ตามรูปแบบการเปิด Blue light filter ที่ตรงกับความต้องการ 5. 1 5. กรณีต้องการเปิด Blue light filter ตลอดเวลา – บนหน้าจอ BLUE LIGHT FILTER ให้ทำการตั้งค่า Turn on now เป็น On เสร็จแล้วปิดหน้าจอ Settings 6.
ทุกคนเคยได้ยินคำว่า blue light หรือแสงสีฟ้ากันไหมคะ? เจ้าแสงตัวนี้คือแสงที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของเรา และแหล่งที่มาของแสงที่ใกล้ตัวเราที่สุดเลยก็คือ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั่นเอง หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก หรือยังไม่รู้โทษของ อันตรายจากแสงสีฟ้า ว่ามีอะไรบ้าง ส่งผลอย่างไรกับดวงตาหรือสุขภาพของเรา วันนี้ DIY INSPIRE NOW จึงมีเรื่องราวของแสงสีฟ้านี้มาบอกเล่าให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะว่า blue light คืออะไร? และเราสามารถป้องกันได้อย่างไรบ้างค่ะ อันตรายจากแสงสีฟ้า มีจริงหรือไม่? มาหาคำตอบพร้อมวิธีป้องกัน Image Credit: Blue Light แสงสีฟ้านี้คืออะไร?